จวกข้อเสนอ 'รมว.เกษตรฯ' สั่งแบนพาราควอตใน 3 ปี เท่ากับยื้อเวลาอีก 2 ปี ชวนติดแฮชแท็กต้านผ่านโซเชียล

โดย ACT โพสเมื่อ Feb 13,2019

- - ขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ - -

 

ไบโอไทย แฉ รมว.เกษตรฯ สั่งผ่านไลน์ให้แบน “พาราควอต” ใน 3 ปี ผ่าน 2 แนวทาง ตามลักษณะพื้นที่เกษตร และแนวทางลดละเลิก ในการประชุม คกก.วัตถุอันตราย วันที่ 14 ก.พ. นี้ ชี้เท่ากับยื้อการใช้ออกไปอีก 2 ปี ชวนคนไทยติดแฮชแท็กไม่เอาพาราควอต แบนพาราควอตเดี๋ยวนี้

วันนี้ (12 ก.พ.) มูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ “BIOTHAI” ถึงท่าทีของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อการยกเลิกการใช้สารพาราควอตทางการเกษตร ว่า หลังจากนิ่งเฉยกับข้อเรียกร้องของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และองค์กรต่างๆ มานาน ในที่สุด นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งข้อความไปยังปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เพื่อหารือเกี่ยวกับการแบนพาราควอตแล้ว โดยเสนอให้มีการแบนสารพิษร้ายแรงนี้ภายในไม่เกิน 3 ปี

ข้อเสนอให้มีการแบนภายใน 3 ปี เท่ากับยื้อการแบนออกไปอีก 2 ปี เนื่องจาก มติของกระทรวงสาธารณสุขและคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน มีข้อเรียกร้องให้มีการแบนภายในสิ้นปี 2562 นี้ หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอครั้งแรกให้มีการแบนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ต่อกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 โดยข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่ส่งผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ไปถึงข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องเมื่อเวลาประมาณ 20.45 น.ของคืนที่ผ่านมา (11/2/2562) หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายลงมติจะทบทวนการแบนพาราควอต ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้

โดยข้อเสนอของ รมว.เกษตรฯ ที่ส่งผ่านไลน์นั้น ได้เสนอ 2 ทางเลือก คือ แนวทางที่ 1 ประกาศยกเลิกแบบเป็นขั้นตอน โดย 1.กำหนดระยะเวลาในยกเลิกการนำเข้าและการใช้พาราควอต ภายใน 3 ปี (ไม่ควรเกิน 3 ปี) 2.กำหนดพื้นที่ห้ามใช้ ห้ามจำหน่าย พาราควอต แบ่งเป็นปีแรก พื้นที่ต้นน้ำ และพื้นที่ที่มีการทำเกษตรอินทรีย์ ตามประกาศกระรทรวงเกษตรฯ โดยให้จังหวัดมีส่วนเสนอ (ประกาศทั้งจังหวัด หรือเฉพาะอำเภอ /ตำบล) ปีที่สอง พื้นที่ที่มีการทำเกษตรปลอดภัย (gap) เกษตรยั่งยืน พื้นที่ชลประทาน (ประกาศทั้งจังหวัด หรือเฉพาะอำเภอ/ตำบล) และปีที่สาม ยกเลิกทั้งประเทศ

แนวทางที่ 2 ใช้หลักการมีส่วนร่วมของเกษตรกรและเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่เป้าหมายโดยให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการเกษตรอินทรีย์จังหวัด โดยเสนอให้กำหนดวิธีลด/ละ/เลิก การใช้สารเคมีในระยะเวลา 3 ปีโดยให้แต่ละจังหวัดกำหนดแผนงานลด/ละ/เลิก การใช้สารเคมีพาราควอต โดยเริ่มตั้งแต่ในปีที่ 1 ใช้มาตรการลด และในปีที่ 2 ใช้มาตรการละ และปีที่ 3 ยกเลิกเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิชีววิถี ยังได้ประกาศชักชวนให้ช่วงเวลา 12.00 น.ของวันที่ 12 ก.พ.ให้ทุกคนร่วมโพสต์ข้อความหรือแสดงความเห็นต่างๆ เกี่ยวกับการยกเลิกการใช้สารพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตในเฟซบุ๊ก พร้อมติดแฮชแท็ก #ไม่เอาพาราควอต_คลอร์ไพริฟอส_และไกลโฟเซต รวมถึง #แบนพาราควอตเดี๋ยวนี้  #SaveThailandBanParaquat เพื่อเป็นการส่งเสียงไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย ว่าประชาชนไม่เอาสารเคมีอันตราย ซึ่งวันที่ 14 ก.พ. 2562 เวลา 12.00 น.จะเดินทางไปยังสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อพิสูจน์หัวใจคณะกรรมการวัตถุอันตราย

ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ว่า พาราควอตและสารเคมีอื่นๆ ด้วย ต้องหยุด ทำเป็นกระบวนการชั่วร้าย มาเนิ่นนาน และยังทำเป็นคนดีจะขอยกเลิกเป็นขั้นเป็นตอน ขอต่อไปอีก 3 ปี 1.มีเวลาตั้งแต่ 2560 2.รับปากว่าจะลดการนำเข้า เอามาตรการทดแทน กลับปล่อยนำเข้าเป็นเกือบ 2 เท่า ส่งเสริมการขายการใช้ คนตาย ป่วยมากมาย 3.มาตรการทดแทน ทั้งที่มีกลับปิดบัง ไม่ส่งเสริม 40 ปีที่แล้วมีแผนของประเทศให้เป็นเกษตรธรรมชาติ 30 ล้านไร่ จนปัจจุบัน กำหนด 5 ล้านไร่ 4.รมว.เกษตรฯ นายกฯ รมต.ประกาศ เอาชีวิตคนไทยก่อน หมายความว่าอะไร? อย่าปล่อยให้สารพิษอาบแผ่นดิน

 

 

 

 

 

 

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน